รับประมูลของเก่า รับซื้อขายสินค้ามือสองทั่วไทย ให้ราคาดี จ่ายเงินสด บริการรวดเร็วทันใจ โดยทีมงานมืออาชีพประสบการณ์สูง ให้คำแนะนำด้านการรับประมูลของเก่า รับซื้อ เหมา รับประมูล ประมูลของเก่า ประมูลงานรื้อถอน ร้านเกมส์ สำนักงาน บริษัท รับประมูลเครื่องจักรเก่า รับประมูลโครงสร้างเหล็ก โรงแรม โรงงาน ห้าง ร้าน ห้างร้านขนาดใหญ่ รวมถึงดูแล ประเมินราคาที่เที่ยงธรรม รับประกันงานทุกพื้นที่ ทั่วจังหวัด ทั่วประเทศ
- ทีมงานมีประสบการณ์ตรง ด้านการรับประมูลของเก่ามากกว่า 20 ปี
- เดินทางวัดหน้างานสำรวจเบื้องต้นฟรีทั่วจังหวัดเพื่อให้ลูกค้าได้รับ งานที่ตรงความต้องการก่อนตัดสินใจ
- รับประมูลของเก่า ตึก บ้าน อาคาร บ้านเรือน ทุกชนิด ทุกขนาด เล็ก-ใหญ่ ทั่วประเทศ
- เที่ยงธรรม รับประกันคุณภาพ พร้อมการบริการหลังการขาย
- บริการคุณภาพด้วย STD Serve บริษัทรับประมูลของเก่า
พร้อมรับงานทุกขนาด งานบ้านทั่วไป งานโครงการ งานรับเหมา และอื่นๆ สนใจการประมูลของเก่า อื่นๆ ต้องที่ STD Serve บริษัทรับประมูลของเก่า เท่านั้น
ซื้อของเก่า วันนี้
เปิดร้านรับซื้อของเก่าไม่กี่ปีทำไมถึงรวย
ก่อนอื่นเพื่อนๆต้องเข้าใจก่อนเลยนะครับผมว่า ธุรกิจรีไซเคิลหรือที่เรียกทั่วๆไปว่า การเปิดร้านรับซื้อของเก่า วัตถุดิบรีไซเคิล พวกนี้นะครับผมสามารถขายได้ง่าย ขายได้เป็นเงินสด มีสภาพคล่องสูงนะครับผม เวลาขายให้ใครก็มีคนอยากจะได้นะครับผม และก็ขายได้เป็นเงินสดด้วยนะครับผม แล้วทำไมเปิดร้านรับซื้อของเก่าไม่กี่ปีทำไมถึงรวยนะครับผม ก่อนอื่นผมต้องขอพูดอย่างนี้ก่อนเลยนะครับผมว่า สาเหตุที่เพื่อนๆมองอย่างนั้นคือ ผมแบ่งให้เป็น 4 หัวข้อหลักๆเลยนะครับผม ที่มองว่าเปิดร้านรับซื้อของเก่าแล้วรวยนะครับ
หัวข้อเกี่ยวกับเรื่องคนที่ทำงานเฉพาะด้าน ทำงานหน้าเดียวแต่เน้นปริมาณเยอะๆ พวกนี้ก็ซื้อขายกันทีเยอะๆเอากำไรส่วนต่าง น้อยนะครับผมเช่น การรับซื้อเหล็ก ส่งเข้าเตาหลอมนะครับผมพวกนี้ก็ จะซื้อจากร้านรับซื้อของเก่าเข้ามาแล้วก็ส่งให้กับทางเตาหลอม เที่ยวนึงหักค่าใช้จ่าย หักค่ารถค่าน้ำมันค่าแรงงาน ก็จะเหลือประมาณสัก 20 สตางค์ถึง 30 สตางค์ต่อกิโลกรัมแต่เขาจะเน้นปริมาณมาก พวกนี้ก็จะได้พอสมควร แต่ถ้าช่วงจังหวะเหล็กขึ้นก็โชคดีไปนะครับผม แต่ถ้าช่วงจังหวะเล็กลงอันนี้ก็จะเจ็บตัว พอสมควรเลยนะครับ พวกนี้ผมมองว่า เขามีอัตราความเสี่ยงสูง แล้วก็ต้องมีฐานลูกค้าเยอะ และต้องมีประสบการณ์มากพอสมควรถึงจะทำได้
คือคนที่ประมูลรับซื้อของเก่าตามโรงงานอุตสาหกรรม พวกนี้ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือเยอะพอสมควร จะต้องมีรถสิบล้อหลายคัน มีแรงงาน แล้วก็ที่สำคัญชั่วโมงนี้นะครับผมสามารถทำได้ยาก เพราะว่ามีคู่แข่งเข้ามาเยอะ มีอัตราการแข่งขันสูง ส่วนต่างกำไรก็จะได้น้อยมากนะครับแล้วก็จะต้องคอย support กับโรงงาน อยู่ตลอดเวลาถ้าเป็นหนังสือสัญญา 3 เดือน 6 เดือน ราคาปรับขึ้นก็โชคดีไปนะครับผม แต่ถ้าราคาปรับลงก็เจ็บตัวพอสมควรเลยนะครับ เพราะต้องยืนราคาอยู่ 3 เดือน 6 เดือนตามหนังสือสัญญา ในกลุ่มนี้ต้องเสี่ยงพอสมควร จริงอยู่นะครับผมเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาผู้ที่ประมูลรับซื้อของเก่า ตามโรงงานนี้ผมว่า เขาจะได้ดีนะครับผมมาในวันนี้ณปัจจุบันนี้ มองว่าทำได้ยากนะครับผม
คือกลุ่มคนที่ขยันขันแข็งเก็บหอมรอมริบทีละน้อยๆนะครับผม ก็ตามร้านของเก่าในชุมชนทั่วไป พวกนี้เขาก็จะค่อยๆทำไปเก็บเล็กเก็บน้อยไปนะครับผมแล้วก็สร้างมีรายได้ขึ้นมาในกลุ่มคนพวกนี้ก็ต้องใช้ระยะเวลาสักพักเลยนะครับถึงจะมีเงินมีทองขึ้นมา
คือกลุ่มที่ใช้เงินกู้จากธนาคารมา ซึ่งธนาคารให้มาในการลงทุนซื้อขายวัตถุดิบรีไซเคิล แต่เอาเงินส่วนนี้จะบางส่วน ไปซื้อบ้านซื้อรถ รถยนต์ทำให้ภาพลักษณ์ว่าดูดี มองดูว่ารวยซึ่งอันที่จริงแล้ว บางคนก็มีรวยบางคนก็รวย น้อยหน่อยแล้วแต่ไปนะครับผม จริงๆแล้วในส่วนนี้ผมมองว่าธุรกิจรีไซเคิลก็จะมีคนที่รวยแล้วก็มี ฐานะปานกลางพออยู่พอกินก็มี มีหลายระดับนะครับผม เหมือนกับอาชีพทุกอาชีพทั่วไปนะครับผม
เพื่อนๆก็อย่ามาเหมารวมว่าทำอาชีพร้านรับซื้อของเก่าเปิดร้านรับซื้อของเก่า ไม่กี่ปีเดี๋ยวก็รวยแล้ว ซึ่งอันที่จริงผมว่ามันไม่ใช่นะครับผม ผมว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง ไม่อย่างนั้นเวลาที่โฆษณาทางทีวี แต่การขายกองทุน อะไรต่างๆเขาจะต้องลง เพื่อนๆลองสังเกตดูว่าจะมีการพูด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
การประมูลอย่างไรให้ชนะ
การประมูลไม่เหมือนกับการซื้อของทั่วๆไปตามเซเว่นหรือห้างสรรพสินค้า ที่เราจ่ายเงินตามราคาสินค้าที่ตั้งไว้ หรือถูกกว่านั้นถ้าผู้ขายลดราคาให้
(คงไม่มีใครอยากจ่ายแพงกว่าราคาที่ตั้งไว้หรอก) ผู้ขายสินค้าจะกำหนดราคาประมูลเริ่มต้น อาจจะเป็นราคาขั้นต่ำที่ผู้ขายยินดีที่จะขาย หรือจะเป็นราคาเริ่มต้นที่ถูกมากๆ (อย่างเช่น 1 เยน) เพื่อหวังให้สินค้าของตนเป็นจุดสนใจ สำหรับผู้ประมูล ในกรณีนี้ ราคาสินค้าจะดีดตัวขึ้นไปเองตามราคาตลาดถ้ามีผู้ประมูลมาแข่งขันกันหลายคน แต่ถ้าเป็นช่วงที่ไม่มีคนมาประมูลพอดี คุณก็สามารถประมูลได้ในราคาที่ถูกมากๆ
การประมูลนั้นผู้ประมูลแต่ละคนจะตั้งราคาประมูลสูงสุดที่ตนเองสามารถประมูลได้สำหรับสินค้าชิ้นนั้นๆ อาจจะมีคนมาประมูลสินค้าชิ้นเดียวกับคุณหลายคน หรือมีแค่คุณคนเดียว เมื่อหมดเวลาประมูล ผู้ประมูลคนที่ให้ราคาสูงสุดก็จะชนะประมูลไป
ฮืม... ฟังคอนคอนเซปต์ดูแล้วน่าจะง่ายๆ แต่ประมูลอย่างไรแล้วให้ชนะด้วยราคาที่ถูกที่สุดล่ะ
ช่วงเวลาที่สามารถประมูลได้สำหรับสินค้าแต่ละชิ้นส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงประมาณ 5-7วัน ถ้าใส่ราคาสูงๆและประมูลไปตั้งแต่แรกๆ ราคาก็จะดีดตัวขึ้นไปตั้งแต่ยังเหลือเวลาประมูลอีกหลายวัน พอผู้ประมูลคนอื่นมาดู แล้วพบว่าราคาสูงขึ้น ก็ช่วยประมูลเพิ่ม (พอดีอยากได้สินค้านี้พอดีและอยากเป็นผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงที่สุด) ราคาสินค้าก็สูงขึ้นๆ พอจะหมดเวลาประมูล ผู้ประมูลก็ให้ราคาประมูลสูงขึ้นอีก
เนื่องจากราคาสินค้าในช่วงแรกแพงอยู่แล้วก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ ถ้าสู้ราคาไม่ใหวก็ต้องยอมแพ้ไป
เทคนิคการประมูลของสินค้าแต่ละชิ้นก็ไม่เหมือนกัน แบ่งแยกการประมูลได้ 2 ประเภท
1. สำหรับสินค้ายอดนิยม
2. สำหรับสินค้าทั่วไป จะรู้ว่าเป็นสินค้าไหนประเภทใด ก็ดูได้จาก "จำนวนเสนอราคาประมูล" ในหน้ารายละเอียดสินค้า ถ้าเกิน 5 และเหลือเวลาประมูลเป็นหลายวัน ก็ประมาณได้ว่าเป็นสินค้าที่มีคนมาประมูลหลายคน ถ้ายังเป็น 0 หรือ 1 อยู่ ก็ประมาณได้ว่าเป็นสินค้าทั่วไป
เทคนิกการประมูลสินค้ายอดนิยมนั้นคือ
1. Sniper Bid คือตรวจสอบเวลาหมดประมูลก่อนว่าเหลือเท่าไหร่ ถ้าเป็นหลายวัน ก็ยังไม่ต้องประมูล เก็บสินค้าไว้ใน "สินค้าติดตาม" ก่อนแล้วคอยดูความเคลื่อนไหวของราคาไว้ พอเหลือเวลาหน่วยเป็นช่วงโมง คุณอาจจะหยั่งความนิยมของสินค้านั้นๆได้โดยลองประมูลด้วยราคาที่ต่ำสุด หลังจากที่ประมูลแล้วมีคนมาให้ราคาตัดหน้าทันที ก็รู้ได้เลยว่ามีผู้แข่งแล้ว อ้าว.. ทำอย่างไรดีล่ะครับ ใจเย็นๆและรอประมูลอีกทีตอนเหลือเวลาอยู่ประมาณ 3 นาทีสุดท้าย หรือเรียกว่ายิงใน0-5นาทีสุดท้าย (อย่าประมูลใกล้เวลาหมดประมูลมากกว่านี้นะครับ มันข้อนค่างเสี่ยง เน็ตอาจจะช้า คอมอาจจะแฮ้ง อาจไฟดับได้ อีกอย่าง เซอเวอร์ประมูลก็คนเยอะอาจจะโหลดได้ช้าและไม่ทันได้)
2. Instant Bid คือว่าชอบสินค้าชิ้นไหนก็เฝ้าใส่ราคาไล่กันไปเรื่อยๆจนกว่าจะจบ หรือหมดเวลานั้นเอง
3. Buy it Now คือประมาณว่าซื้อราคาในราคาที่เขาตั้ง จบๆ ไม่ต้องไปสู้กับใครได้แน่ๆ
สินค้าทุกตัวจะมีอ็อปชั่นที่ว่า ถ้ามีคนมาประมูลในช่วง 1-5 นาทีสุดท้าย เวลาประมูลจะยืดออกไปอัตโนมัติ เพื่อให้โอกาศประมูลใหม่ เวลาประมูลที่ยืดออกไปอีก 5 นาทีเสมอ ถ้าเวลาถูกยืดออกไป ก็รอประมูลที่ 5 นาทีสุดท้ายเช่นกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเช็คเวลาหมดประมูลเสมอครับ เวลาหมดประมูลของสินค้าส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4-5ทุ่มเวลาที่ญี่ปุ่น (ซึ่งเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่กลับมาจากทำงานและทานข้าวเรียบร้อยแล้ว) หรือ 2-3 ทุ่มเวลาบ้านเรา
เทคนิกการประมูลสินค้าทั่วไปนั้นไม่มีอะไรมาก ถ้าคุณมีเวลานั่งประมูลก่อนจะหมดเวลา ก็ใส่ราคาประมูลที่ 5 นาทีสุดท้าย ถ้าไม่มีเวลาประมูล
ก็ใส่ราคาประมูลที่คุณคิดว่าสู้ได้ แล้วมาดูผลทีหลัง แต่ทางที่ดีควรมีเวลานั่งเฝ้าสินค้าของตนเองตอนหมดเวลาจะดีที่สุดนะครับเขียนมาตั้งยาว
สรุปตามข้างล่างนี้ครับ
• ควรรู้ถึงเวลาหมดประมูลของๆที่ประมูลอยู่
• ประมูลในช่วง 5 นาทีสุดท้าย หรือใส่ประมูลลองเชิงด้วยราคาต่ำสุด
• ไม่ควรประมูลในช่วงนาทีสุดท้าย**
• ถ้าสู้ไม่ไหวและมีทางเลือกอื่น ก็ยอมแพ้แล้วไปดูสินค้าประมูลใหม่
อนึ่ง การประมูลแต่ละชิ้น ควรจะอ่านรายละเอียดอย่างรอบคอบ ย้ำๆ** (ถึงจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็ตาม) ถ้าดูรายละเอียดแล้วไม่ค่อยมั่นใจก็ตัดใจและลองหาสินค้าใหม่ ตรวจสอบว่าจะต้องจ่ายอะไรบ้างอย่างรอบคอบ ส่วนใหญ่จะมีแค่ค่าสินค้าและค่าขนส่งภายในประเทศ บางกรณีที่ผู้ขายไม่หวังดีก็อาจจะเก็บค่าขนส่งแพงๆ หรือต้องจ่ายค่าอะไรๆเพิ่ม ดูดีๆนะครับ